วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เกร็ดความรู้ ใน 7-11

   
เครดิต : www.stock2morrow.com
     เป็นประจำแทบจะทุกวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ที่ผมจะเข้าไปซื้อกาแฟ All-Cafe ใน 7-11 แถวบ้าน บังเอิญว่าเมื่อวานช่วงที่เข้าไป คนดันเยอะมากๆ เลยสั่งกาแฟทิ้งไว้ แล้วเดินเล่นๆภายในร้าน ในช่วงระหว่างรอ ปกติผมก็ชอบเดินสำรวจสินค้าใน 7-11 เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ไม่เคยได้สังเกตุที่ป้ายราคาสีเหลืองๆ นอกจากจะมีราคา มีบาร์โค้ดแล้ว มันยังมีรหัสภาษาอังกฤษกับตัวเลขเล็กๆติดอยู่ ด้วยความอยากรู้เลยต้องลองค้นหาข้อมูลซักหน่อย มันคืออะไร?? ไปดูกันครับ..


    ยกตัวอย่างในหมวดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ทุกๆคนน่าจะรู้จักกันดี มาม่ารสต้มยำกุ้ง ครองแชมป์ขายดีที่สุด สังเกตุจาก สัญลักษณ์ T1 ที่ไฮไลต์สีส้มๆ หมายถึง สินค้าที่ขายดีมาก ( T ย่อมาจาก TOP) จุดสังเกตุอีกอย่าง (อันนี้ผมคิดเอาเอง) คือสินค้าที่ขายดีมาก จะอยู่ในระดับสายตาของเราพอดิบพอดี เพื่อให้หยิบง่าย ขายคล่อง

     
     ไวไว หอยลายผัดฉ่า ที่ผมโปรดปราน จะติด สัญญลักษณ์ T2 คือ สินค้าขายดีรองลงมาจาก T1 การจัดวางก็จะลงมาอยู่ชั้นล่างถัดจากสินค้า T1

     หมวดอื่นๆ อย่างนมแลคตาซอย แต่ละรสชาติ ก็จะขายดีแตกต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสินค้าที่ติด T1 T2 ก็จะเป็นประเภทที่ซื้อง่ายขายคล่องอยู่แล้ว เช่น น้ำ นม ขนม ต่างๆนานา นอกจากนี้ ก็ยังมี T3 T4 ตามลำดับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสาขานั้นๆ บางสาขาจะติด TOP อาจจะไม่เหมือนกัน 
     ยังไงเวลาเพื่อนๆเข้า 7-11 ก็ลองสังเกตุกันดูเล่นๆนะครับ ในส่วนของนักลงทุนหุ้น บางที สินค้านั้นๆ อาจจะติด TOP ในหลายๆสาขา ซึ่งปัจจุบัน 7-11 ในประเทศไทยตอนนี้ทะลุ 10,000 สาขาไปเรียบร้อยแล้วครับ ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับหุ้น CPALL ไปครั้งนึงแล้ว <<อ่านบทความ "ลงทุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก">> อาจจะใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อหุ้นไปเลยก็จะดีไม่ใช่น้อยครับ..

              ติดตามบทความอื่น "คลิ๊ก!! ที่นี่"

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ครบ 1 ปี กับการลงทุนในหุ้นรายตัว

   
     15 พ.ค.61 วันครบรอบ 1 ปี กับการลงทุนหุ้นตัวแรกในชีวิต และ 3 ปีกว่าๆ กับการเริ่มลงทุนในกองทุนประเภทต่างๆ ผมเริ่มลงทุนในหุ้นด้วยเงินลงทุน 5,000 บาทถ้วน จำนวนเงินเท่ากับที่เริ่มลงทุนในกองทุนเลยทีเดียว อ่านบทความ:จุดเริ่มต้นการลงทุน คลิ๊ก!! ที่นี่!! และจนถึงปัจจุบัน หุ้นตัวแรกตัวนั้นก็ยังอยู่ประดับพอร์ตของผม พร้อมๆกับจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
     ด้วยวินัยที่แข็งแกร่ง (นี่!! มีชมตัวเอง) จากเงินเริ่มต้น 5,000 บาท ปัจจุบันพอร์ตหุ้นของผมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเงินเดือนทุกๆเดือนตั้งแต่วันแรกที่เงินเข้าบัญชี จากเงินปันผลในกองทุนหุ้น กำไรที่ได้จากการขายหุ้นบางตัว รวมทั้งเงินพิเศษอื่นๆ ต่างวิ่งเข้าพอร์ตหุ้นในทันทีทันใด
     ผมยังเชื่อในพลังของดอกเบี้ยทบต้นตั้งแต่ผมได้เริ่มต้นศึกษาตั้งแต่เกือบ 4 ปีที่แล้ว และพยายามเร่งใส่เงินต้นเข้าไปให้เร็วที่สุด ถ้าเทียบกับการสร้างตึกอาคาร ปัจจุบันนี้ ผมได้สร้างฐานรากและงานโครงสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว (จากทั้งกองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ เงินสดเผื่อฉุกเฉิน) หลังจากนี้เงินลงทุนก้อนเล็กๆใหม่ที่จะเข้ามาแต่ละเดือนทั้งหมด จะเข้าไปที่พอร์ตหุ้นเพื่อรอเก็บสะสมไปเรื่อยๆ


     Portforlio (บัญชีหุ้น) ของผม ประกอบไปด้วย หุ้น 71.25% , เงินสด (เพื่อรอซื้อหุ้น) 28.76% ปัจจุบันมีหุ้นอยู่ในพอร์ตทั้งหมด 7ตัว (ตอนแรกวางไว้ไม่เกิน 5ตัว แต่มันคันมือเลยจัดเพิ่ม 555) แต่ถ้าเทียบกับนักลงทุนอื่นๆ พอร์ตของผมคงเล็กเท่าจิ๋มมดเป็นแน่แท้ ในบทความนี้คงยังไม่ได้พูดถึงผลตอบแทนการลงทุน เนื่องจากปริมาณเงินอันน้อยนิด บวกกับประสบการณ์ที่ยังน้อย คงยังไม่สามารถวัดอะไรได้มากนัก ซึ่งดูจากกราฟแสดง Portfolio Performance ยังแพ้ตลาดอยู่พอสมควร...


     หลังจากนี้ ผมคงต้องทำการบ้านในการศึกษาหาความรู้เพื่อปรับพอร์ตให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การลงทุนเป็นการลงทุนเพื่อชีวิต เพื่อการเปลี่ยนแปลงของชีวิต และสุดท้ายเป้าหมายเดิมคือ "อิสรภาพทางการเงิน"
                 ติดตามบทความอื่นๆ คลิ๊ก ที่นี่!!