วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2560

สร้างพอร์ตเพื่อการศึกษาบุตร

   
     วันพฤหัสบดี ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.42 น. เป็นวันที่ ด.ญ.ขวัญจิรา ภูโสภา (น้องของขวัญ) ได้ออกมาลืมตาดูโลก พร้อมกับเพื่อนๆอีกมากมายจนล้นห้องคลอด โรงพยาบาลชัยภูมิ ในวันนั้น ผ่านเวลาแห่งความสุขมาจนครบ 2 สัปดาห์ และอีกไม่กี่วันจะหมดปี 2560 อย่างรวดเร็ว..


     วันนี้ผมตื่นมาตั้งแต่เช้ามืด (เมื่อคืนหลับแซบ ตัวเล็กไม่ค่อยกวน) สมองปลอดโปร่ง เลยมีเวลามานั่งอ่านข่าว อ่านโน่นนี่นั่น  และมีเวลาได้ติดตามพอร์ตการลงทุน รวมทั้งวางแผนการในปีหน้า
     คิดขึ้นได้ว่า ตั้งแต่น้องของขวัญลืมตาดูโลกมา ทั้งพ่อแม่พี่น้อง ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา เข้ามาเยี่ยมน้อง รวมทั้งได้กรุณาผูกแขนรับขวัญน้องมากมาย เราสามคนพ่อแม่ลูก จึงถือโอกาสขอบคุณทุกๆท่านเป็นอย่างสูง มา ณ ที่นี้ และเราสัญญาว่าจะนำเงินรับขวัญส่งต่อให้น้องของขวัญและจะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มาดูกันว่า เราจะทำอย่างไร??
      เรา(ผมกับภรรยา) ปรึกษากันและเริ่มสร้างพอร์ตการลงทุนให้ลูกมาซักระยะแล้ว ติดตามบทความเก่า ได้ ที่นี่ >> วางแผนมีทายาท วางแผนการลงทุน และแน่นอนว่า เงินรับขวัญน้องของขวัญ เราคงเอาไปลงทุนต่อยอด สร้างเป็น "พอร์ตเพื่อการศึกษาบุตร" ต่อไป


     จากรูป ด้วยสมมุติฐานที่ว่า ผมนำเงินรับขวัญ+เงินเก็บ ใส่เข้าไปในพอร์ตกองทุนหุ้น หรือ หุ้นรายตัว ด้วยจำนวนเงิน 50,000 บาท โดยไม่ได้เติมเงินเข้าไประหว่างทาง ใช้ระยะเวลาการลงทุน 18 ปี มาจากปีที่น้องของขวัญจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และคาดหวังผลตอบแทน 12% ต่อปี มาจากอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 42 ปี ย้อนหลังของตลาดหุ้นไทย
     ฉะนั้น ด้วยเงินต้น 50,000 บาท เมื่อผ่านไป 18 ปี มูลค่าจะเพิ่มเป็น ประมาณ 380,000 บาท หรือเพิ่มขึ้น 7.6 เท่า แน่นอนว่า เงินจำนวนที่ว่า อาจจะน้อยนิด และอาจจะไม่เพียงพอ สำหรับการเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งเราก็ไม่อาจทราบได้ว่า ในอนาคต ค่าเล่าเรียนจะสูงสักแค่ไหน แต่นี่คือจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ผมจะชี้ให้เห็นพลังของดอกเบี้ยทบต้นว่ามันมีประสิทธิภาพเพียงใด และอยากเชิญชวนทุกๆคน มาวางแผนไปกับเรา เพื่อชีวิตที่ดีในระยะยาว แล้วมาติดตามกันว่า เมื่อระยะเวลาผ่านไป พอร์ตเพื่อการศึกษาบุตร ของเราจะเติบโตขึ้นขนาดไหน และจะถึงเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่..
       "เริ่มน้อยๆ ดีกว่าไม่เริ่ม" นะครับ

        ติดตามบทความอื่นๆ คลิ๊ก ที่นี่!!